ออกแบบโลโก้แบบสัญลักษณ์ กับโลโก้ตัวอักษรแตกต่างกันอย่างไร
Manage episode 313618193 series 3278177
เราคือทีมงาน LogoBigbang นักออกแบบโลโก้ที่มีผลงานในการทําโลโก้ยาวนานกว่า 10 ปี https://www.bigbang.co.th/Logo-Design มีความเข้าใจในเรื่องของสี หลักการออกแบบเครื่องหมายสัญลักษณ์เป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างจากนักออกแบบกราฟฟิกทั่วไป เพราะทีมนักออกแบบ LogoBigbang มีความเข้าใจในงานออกแบบโลโก้โดยเฉพาะ
ในส่วนของข้อสงสัยสําหรับผู้ที่ลังเลไม่แน่ใจว่า ควรที่จะใช้ เครื่องหมายสัญลักษณ์ หรือใช้ชื่อแบรนด์ ชื่อร้าน ชื่อบริษัท มาทําโลโก้ดี ซึ่งโดยปกติแล้วการเลือกใช้แบบใดนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ที่สามารถเจาะจงลงไปได้ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลายเงื่อนไข ทั้งงบประมาณในการสร้างแบรนด์ ระยะเวลาในการทําตลาดสินค้าในแต่ละผลิตภัณณ์ และยังมีรายละเอียดอีกมากมาย แต่จะพยายามแบ่งออกได้ตามลักษณะที่จะนําไปใช้ในแต่ละธุรกิจ เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบในการตัดสินใจได้บ้าง
มีรายละเอียดทําโลโก้มีดังนี้
- ออกแบบโลโก้แบบชื่อตัวอักษร ควรอย่างยิ่งที่จะใช้ชื่อแบรนด์ นํามาออกแบบโลโก้ เพราะจะช่วยให้สามารถสร้างความจดจํา เอ่ยถึง รู้จักชื่อแบรนด์ได้ง่ายกว่าการออกแบบโลโก้ที่เป็นลักษณะสัญลักษณ์ ลองนึกดูว่าเวลาเรานําเอาโลโก้ไปใช้งานในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนามบัตร เว็บไซต์ ป้ายร้าน ก็จะเห็นโลโก้ที่สามารถอ่านออก สะกดชื่อแบรนด์ของเราได้ทันที ซึ่งก็จะเกิดการรับรูปแบรนด์ได้ในครั้งแรกที่ผู้คนได้มองเห็นโลโก้ของเรา แต่สำหรับข้อเสียก็คือถ้าเราเลือกใช้ชื่อแบรนด์ภาษาอักกฤษ ผู้คนที่สะกดอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็จะไม่รู้จักชื่อแบรนด์ หรือชื่อบริษัทของเรา เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่ต้องช่างน้ำหนักดูว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร มีความสามารถในการสะกดอ่านชื่อแบรนด์ที่อยู่ในโลโก้ของเราได้หรือไม่
- ออกแบบโลโก้แบบรูปทรงสัญลักษณ์ ในมุมของนักออกแบบโลโก้แล้ว การออกแบบโลโก้ที่ใช้รูปทรงสัญลักษณ์นั้นจะมีความยากกว่า เพราะมีรายละเอียดในการวาด ในการคิดรูปทรง รวมถึงสีที่จะเลือกใช้ กำหนดให้รูปทรงของโลโก้ที่ออกแบบมานั้น มีสีอะไรบ้าง แต่สิ่งที่ได้ในมุมเจ้าของโลโก้คือ ความเป็นมาตรฐานสากล ที่สามารถนําโลโก้ที่ออกแบบมาแล้วไปใช้ได้ทั่วโลก เพราะรูปทรงนั้นใช้เพื่อการจดจำ โดยอาจเป็นรูปภาพ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ ที่สื่อถึงธุรกิจของเรา แต่ข้อเสืยของการออกแบบโลโก้โดยใช้รูปสัญลักษณ์นั้นก็ยังมี เพราะว่าสร้างการเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ได้ยากกว่า เนื่องจากโลโก้ที่เห็นนั้นไม่มีตัวอักษรที่สามารถสะกดอ่านได้ ตั้งใช้ป้ายกำกับ Tagline อธิบายเพิ่มเติมในโลโก้เข้าไปเพื่อช่วยในการอ่านสะกดชื่อแบรนด์ เท่าที่โอกาสจะมีให้ใช้ป้ายกำกับ Tagline เพราะไม่ใช้ครั้งที่จะสามารถนำโลโก้ไปใช้แล้วจะแสดงป้าย Tagline ได้ เพราะเนื้อที่ ที่จะไปแสดงอยู่นั้นจำกัด และนี้ก็คือข้อเสียของโลโก้ที่เป็นแบบรูปทรงสัญลักษณ์
นักออกแบบโลโก้
จะเห็นได้ว่านักออกแบบโลโก้ ต้องมีความเข้าใจในรายละเอียดหลายเรื่องที่ไม่เหมือนกับนักออกแบบกราฟฟิกทั่วไป โดยที่นักออกแบบโลโก้ต้องมีเข้าใจในขั้นตอนของการนำไปใช้งานโลโก้เป็นอย่างมาก จึงแนะนำว่า หากใครกำลังเริ่มต้นออกแบบโลโก้ ให้เลือกใช้บริการบริษัทที่ให้บริการรับออกแบบโลโก้โดยเฉพาะจะดีกว่า เพราะโลโก้คือสิ่งที่จะอยู่ให้เราดูโลโก้ของเราเองไปอีกหลายๆ ปี ลองนึกดูว่า หากโลโก้ที่ออกแบบมานั้นไม่สวย ไม่ถูกใจ ไม่ภูมิใจแล้ว แต่เรากลับต้องเห็นโลโก้ชิ้นนี้ในทุกๆ วันคงจะไม่ดีแน่ๆ
นักออกแบบกราฟฟิกจะมีความแตกต่างกับนักออกแบบโลโก้ ถึงแม้ว่านักออกแบบกราฟฟิก จะสามารถวาดโลโก้ได้สวยงาม และมีเทคนิคต่างๆ ที่มากกว่า แต่ยังขาดความเข้าใจในส่วนของรูปทรงสัญลักษณ์ อารมณ์ของสี ที่จะส่งผลต่อความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ หรือโลโก้ชิ้นงานนั้นอย่างไร นักออกแบบโลโก้จะสามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์นั้นๆ ผ่านรูปทรงของโลโก้ได้ในทันที เลือกรูปทรงของโลโก้ให้ตรงกับเอกลักษณ์ของธุรกิจ และสร้างภาพลักษณ์ขององค์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะตัวโลโก้เอง ถือได้ว่าเป็นตัวกำหนดโทนสีขององค์กร และโทนสีนี้ นักออกแบบโลโก้จะได้มาจากการสังเกตภายในองค์เอง ว่ามีเอกลักษณ์ด้านใดที่โดดเด่น
สามารถฟังคลิปบรรยายอธิบายข้อดี ข้อเสียของการออกแบบโลโก้แต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไร ฟังกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องอ่านให้เสียเวลา สะดวกในการรรับข้อมูลในเรื่องโลโก้ทางทีมนักออกแบบ LogoBigbang ยินดีเล่าเรื่องราวประสบการณ์งานออกแบบโลโก้ให้กับทุกท่านได้รับฟัง
อ้างอิงจาก LogoBigbang--- Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/websitebigbang/message
https://www.bigbang.co.th/Logo-Design
3 episodes